ไม้ลามิเนต8มิลรุ่นยุโรป(AC3)_LOTTE ราคา400บาทรวมปู

คุณสมบัติสินค้า:

เปลี่ยนพื้นห้องเดิมเป็นพื้นสวยโมเดิร์นด้วย ไม้ลามิเนต8มิลรุ่นยุโรป(AC3) + โฟมรองปรับระดับ + ปูฟรีรวมติดตั้ง + ตรวจพื้นก่อนติดตั้ง

หมวดหมู่ : laminate_EU

Share

เงื่อนไขการไม้ลามิเนตราคารวมติดตั้ง
  • ไม้ลามิเนต 8 มิลรุ่นยุโรป(AC3) ราคา Promotion 400 บาทต่อตารางเมตร ราคารวมติดตั้ง (ไม่รวมบัวข้างผนัง)
  • รวมโฟมรองปรับระดับความหนา 2 mm
  • รวมงานติดตั้งไม้ลามิเนต (ติดตั้งขั้นต่ำ 50 ตารางเมตร ต่ำกว่าพื้นที่ขั้นต่ำคิดราคาเหมาเป็นกรณี)
  • รวมการตรวจพื้นก่อนติดตั้ง

กรณีรวมงานบัว PVC ข้างผนังบวกเพิ่ม 70 บาทต่อตารางเมตร หรือ 120 บาทต่อเมตร (ราคารวมวัสดุบัวPVC พร้อมติดตั้ง)

คุณสมบัติของไม้ลามิเนต
  • ไม้ลามิเนตมีความหนา 8มิลและ12มิล
    • สำหรับงานโครงการคอนโดและบ้านจัดสรร นิยมใช้พื้นไม้ลามิเนตที่ความหนา 8 มิล เนื่องจากสวยงามและราคาถูก
    • พื้นไม้ลามิเนตสำหรับงานพื้นบ้านพักอาศัยแนะนำที่ความหนา 12 มิล พื้นหลังปูจะมีความแน่นมากกว่าความหนา 8มิล
  • ตัวแผ่นไม้ลามิเนตทำจากไม้อัดแน่นสูง(HDF) ปิดผิวหน้าสวยงามด้วยลายไม้(Decorative Paper) เคลือบด้วยชั้นป้องกันรอยขีดข่วนและความชื้นที่ผิวหน้า(Overlaying)
  • การติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตใช้การปูบนโฟมปรับระดับ ติดตั้งประสานแผ่นพื้นไม้ลามิเนตด้วยระบบคลิกล็อค ติดตั้งได้รวดเร็ว ปูทับพื้นปูนซิเมนต์ได้โดยไม่ต้องขัดมัน หรือปูทับพื้นกระเบื้องเดิมได้ทันที การรื้อเปลี่ยนแผ่นทำได้ง่าย
การดูแลรักษาไม้ลามิเนต
  • การดูแลรักษาพื้นไม้ลามิเนตใช้น้ำทำความสะอาดด้วยน้ำ ระวังอย่าให้ชุ่มน้ำเกินไป พื้นไม้ลามิเนตตัวแผ่นทำจากไม้ไม่ทนน้ำ เมื่อโดนน้ำให้รีบเช็ดและทำความสะอาดทันที
  • ระวังไม่ให้มีความชื้นเข้ามาในบริเวณพื้นไม้ลามิเนต ในกรณีทีมีน้ำหกหรือความชื้นเข้ามาสัมผัส ให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดทันที พื้นไม้ลามิเนตผิวหน้าสามารถทำความสะอาดได้แต่ไม่สามารถป้องกันความชื้นที่มาสัมผัสแบบมีระยะเวลา
  • ไม่ควรใช้น้ำยาขัดเงาหรือน้ำยาทำความสะอาดเอนกประสงค์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่มีผลกัดกร่อน ทำความสะอาดพื้นไม้ลามิเนต
  • ระวังไม่ให้สีน้ำมันและทินเนอร์สัมผัสโดยพื้นไม้ลามิเนตซึ่งจะทำให้เกิดคราบ กรณีเกิดคราบบนพื้นไม้ลามิเนตไม่สามารถทำความสะอาดได้ ต้องทำการรื้อและเปลี่ยนแผ่น ซึ่งพื้นไม้ลามิเนตเป็นพื้นระบบคลิกล็อคสามารถเปลี่ยนเฉพาะแผ่นที่เสียหายได้
  • แนะนำใช้ฐานรองแผ่นผ้าหรือแผ่นสักหลาดที่ขาเก้าอี้ โต๊ะและตู้ที่มีน้ำหนัก เพื่อป้องกันการขูดขีดและน้ำหนักกดทับ
  • กรณีพื้นไม้ลามิเนตอยู่ในห้องที่ไม่มีการใช้งาน ควรมีการเปิดห้องให้อากาศถ่ายเททุกๆ2-3 อาทิตย์ เพื่อป้องกันความร้อนสะสมภายในห้องทำให้ไม้ขยายตัวเกินกว่าสภาวะปกติ
ข้อดีของไม้ลามิเนต
  • พื้นไม้ลามิเนตทำจากผงไม้ขึ้นรูป(HDF) มีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทก
  • พื้นไม้ลามิเนตมีราคาถูกกว่าพื้นไม้จริง เหมาะกับการใช้งานที่มีงบประมาณแบบพอเพียง
  • การติดตั้งพื้นไม้ลามิเนต เป็นการปูพื้นยึดติดกันด้วยระบบคลิกล็อค ไม่ต้องใช้กาวในการยึดติด ทำให้ติดตั้งได้รวดเร็ว กรณีมีความเสียหายจากตัวแผ่นสามารถรื้อเปลี่ยนเฉพาะแผ่นได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนพื้นไม้ทั้งห้อง
  • ลายไม้ของพื้นไม้ลามิเนตมีความสวยงาม มีให้เลือกมากกว่า40สี สามารถเลือกลายไม้ให้เข้ากับการตกแต่งภายในได้ง่าย 
  • ผิวหน้าพื้นไม้ลามิเนตเคลือบด้วยชั้นฟิล์ม ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี 
ข้อเสียของไม้ลามิเนต
  • พื้นไม้ลามิเนตเป็นผงไม้อัดแน่น ไม่สามารถทนต่อความชื้นสัมผัสได้นาน กรณีมีความชื้นและน้ำมาสัมผัส ต้องรีบเช็ดทำความสะอาดทันที ถ้าพื้นไม้ลามิเนตโดนน้ำเป็นระยะเวลา จะทำให้พื้นไม้ลามิเนตบวมน้ำและขึ้นสันตะเข็บบริเวณรอยต่อแผ่นได้

 

การเตรียมพื้นชั้นล่างก่อนการปูไม้ลามิเนต
  • ติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตทับพื้นซิเมนต์ขัดหยาบที่เป็นพื้นใหม่ พื้นไม้ลามิเนตสามารถติดตั้งบนพื้นซิเมนต์ขัดหยาบได้โดยไม่ต้องขัดมัน การตรวจสอบเน้นการตรวจระดับและความชื้น ซึ่งจะมีขั้นตอนน้อยกว่าระบบปูกาว
  • ตรวจสอบความชื้นก่อนติดตั้ง ค่าความชื้นของพื้นก่อนติดตั้งต้องมีความชื้นไม่เกิน5% จากค่าผลทดสอบเครื่องวัดความชื้น
  • ตรวจสอบระดับก่อนติดตั้ง ทำการตรวจสอบโดยเครื่องวัดระดับเลเซอร์หรือไม้สามเหลี่ยมวัดระดับ พื้นก่อนติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตต้องมีระดับความสูงต่ำของระดับไม่เกิน3มิลลิเมตร พื้นไม้ลามิเนตยึดติดด้วยระบบคลิกทำให้พื้นยึดกันเป็นแผ่น จะไม่เป็นคลื่นมาก การปูพื้นไม้ลามิเนตเป็นการปูพื้นบนโฟมปรับระดับทับพื้นชั้นล่าง กรณีพื้นไม่ได้ระดับเมื่อเหยียบพื้นจะมีการยุบตัวของพื้นไม้ลามิเนตได้หรือเรียกว่าพื้นยวบ
  • ติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตทับพื้นซิเมนต์ขัดมันหรือขัดหยาบที่เป็นพื้นเดิม ทำการตรวจสอบเหมือนข้อ1 เพิ่มเติมคือกรณีกรณีพื้นซิเมนต์เดิมไม่ได้ระดับ ต้องการทำการปรับระดับใหม่โดยการเทปรับระดับ โดยมีข้อควรระวังคือการประสานระหว่างพื้นเทปรับระดับใหม่และพื้นเดิมต้องมีความแข็งแรงและประสานกันได้สนิท100% อีกวิธีการการปรับระดับด้วยการรองพื้นด้วยสมาร์ทบอร์ดหรือวีว่าบอร์ดก่อนการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนต
  • ติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตกับพื้นSelf Leveling กรณีพื้นซิเมนต์เดิมไม่ได้ระดับและต้องการให้พื้นไม้ลามิเนตมีความเรียบสม่ำเสมอ100% สามารถเลือกใช้วิธีการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตทับพื้นSelf Levelingได้
    • พื้น Self Leveling เป็นการใช้ซิเมนต์ปรับระดับแบบไหลตัวง่าย เทปรับระดับบนพื้นซิเมนต์ขัดหยาบ ซึ่งเนื้อปูนซิเมนต์จะไหลปรับระดับด้วยตัวเองด้วยคุณสมบัติพิเศษ ทำให้พื้นได้ระดับ100% ปรับระดับได้ตวามความหนาที่ต้องการ
    • ความหนาปรับระดับของพื้น Self Leveling ที่ปรับได้ขั้นต่ำ 3-5 มิลลิเมตร กรณีต่ำกว่าพื้นมีโอกาสแตกร้าวเนื่องจากปรับระดับบางเกินไป ข้อจำกัดคือพื้น Self Leveling มีค่าใช้จ่ายสูง ประมาณ 350 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป ขึ้นกับความหนา
  • ติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตทับพื้นกระเบื้องที่เป็นพื้นเดิม พื้นกระเบื้องส่วนใหญ่จะได้ระดับเพราะมีการทำระดับก่อนการติดตั้งพื้นกระเบื้อง และพื้นกระเบื้องมีค่าการป้องกันความชื้นสูง การตรวจสอบความชื้นและระดับพื้นกระเบื้องก่อนการติดตั้งจะทำได้ง่ายกว่าพื้นซิเมนต์ขัดมัน ควรเก็บรอยต่อแผ่นกระเบื้องเดิมด้วยปูนกาวหรือฟุตตี้ที่มีความแข็งแรงสูง เพื่อให้พื้นไม้ลามิเนตหลังติดตั้งไม่มีการยุบตัวเมื่อสัมผัส

 

การตรวจสอบพื้นก่อนการติดตั้งไม้ลามิเนต 
  • ระดับพื้นซิเมนต์สำหรับการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนต ต้องมีความต่างของระดับสูงต่ำไม่เกิน 3 มิลลิเมตรต่อระยะความยาว 1 เมตร ตรวจสอบระดับของพื้นไม้ลามิเนตด้วยไม้สามเหลี่ยมหรือตัววัดระดับเลเซอร์ กรณีมีความต่างมากกว่าค่ามาตรฐาน ต้องทำการปรับระดับใหม่ พื้นที่มีระดับต่ำให้ทำการการเติมพื้นด้วยปูนกาวหรือปูนยิปซั่ม พื้นที่มีระดับสูงให้ทำการเจียพื้นออก หลังการปรับระดับต้องมีระยะเวลาให้พื้นSetตัวและคลายความชื้น
  • พื้นซิเมนต์ก่อนการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตต้องแห้งสนิท ทำการตรวจสอบด้วยเครื่องมือวัดระดับความชื้น โดยค่าความชื้นที่เหมาะสมต้องไม่เกิน 5% กรณีที่ค่าเกินกว่ามาตรฐานต้องทิ้งระยะเวลาให้พื้นSetตัว
  • พื้นซิเมนต์ก่อนการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตต้องมีความแข็งแรง ทำการตรวจสอบความแข็งแรงของผิวหน้า ผิวหน้าพื้นซิเมนต์ต้องไม่หลุดร่อนหรือเป็นฝุ่น ส่งผลให้พื้นไม้ลามิเนตเคลื่อนตัวหลังการใช้งาน
  • กรณีติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตปูทับบนพื้นไม้ปาร์เก้หรือพื้นกระเบื้องเดิม ต้องทำการตรวจสอบว่าแผ่นปาร์เก้และแผ่นกระเบื้องยึดติดแน่นแข็งแรงไม่หลุดร่อน กรณีที่พื้นเดิมชำรุดมีรอยแตกและหลุดร่อน ต้องทำการซ่อมแซมให้เรียบร้อย คงสภาพแข็งแรงก่อนการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนต
  • กรณีการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตโดยมีงานเฟอร์นิเจอร์Build-in ต้องเตรียมแผ่นไม้อัดขนาดความหนาไม่น้อยกว่าพื้นไม้ลามิเนตวางรองบริเวณส่วนที่เฟอร์นิเจอร์Build-inติดตั้ง เพื่อให้พื้นไม้ลามิเนตมีระยะในการขยายตัวสามารถขยายตัวเข้าไปในฐานของเฟอร์นิเจอร์Build-inได้ การวางแผ่นไม้อัดให้เว้นร่นระยะจากระยะขอบของเฟอร์นิเจอร์Build-inเป็นระยะ3 เซนติเมตรโดยรอบ
  • แนะนำให้วางแผนงานติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตเป็นงานลำดับสุดท้าย เพื่อป้องกันผลกระทบจากการทำงานส่วนอื่นที่มีโอกาสทำให้พื้นไม้ลามิเนตเสียหาย งานติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตเป็นงานติดตั้งแบบแห้ง ติดตั้งได้รวดเร็วสามารถวางเป็นการสุดท้ายก่อนใช้งานพื้นได้

 

วิธีการปูไม้ลามิเนต
  • ทำการปูแผ่นโฟมรองพื้นปรับระดับความหนา 2 มิล(PE Foam) เพื่อช่วยปรับละดับของพื้นไม้ลามิเนตให้เรียบสม่ำเสมอ และช่วยลดเสียงของพื้นไม้ลามิเนตกระทบกับพื้นซิเมนตชั้นล่าง นอกจากนั้นการรองโฟมปรับระดับจะช่วยให้สัมผัสของพื้นไม้ลามิเนตนุ่มสบายเท้าขณะเดิน การวางโฟมรองปรับระดับให้ด้านที่มีพลาสติกอยู่ด้านล่างเพื่อป้องกันความชื้นจากพื้นซิเมนต์ขึ้นมาบนพื้นไม้ลามิเนต มีผลให้พื้นไม้ลามิเนตขึ้นตะเข็บสันตรงรอยต่อระหว่างแผ่นพื้นไม้ลามิเนต ทำการปิดรอยต่อของแผ่นโฟมปรับระดับด้วยเทปกาว
  • ทำการวางลิ่มไม้หนา 12-15 มิลลิเมตร ที่ริมผนังทุกด้านถ้าไม่มีอาจใช้เศษแผ่นไม้ลามิเนตก็ได้ โดยลิ่มไม้นี้จะใช้กั้นระหว่างพื้นไม้ลามิเนตกับผนัง เพื่อเป็นช่องว่างไม่ให้พื้นไม้ลามิเนตขยายตัวไม่ให้ไปชนผนัง กรณีพื้นไม้ลามิเนตขยายตัวไปชนผนังทำให้พื้นไม้ลามิเนตโก่งตัวเดินจะรู้สึกยวบเท้า หรือถ้าขยายตัวมากจะทำให้พื้นไม้ลามิเนตขึ้นสันที่หัวแผ่นและระหว่างรอยต่อพื้นไม้ลามิเนต มองเห็นเป็นสันตะเข็บ
  • กำหนดรูปแบบและทิศทางการปูพื้นไม้ลามิเนต โดยส่วนใหญ่จะกำหนดทิศทางการปูพื้นไม้ลามิเนตให้เป็นแนวขนานประตู
  • ขึ้นแผ่นพื้นไม้ลามิเนตแผ่นแรกในการติดตั้งตามทิศทางที่วางไว้ การติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตในบริเวณเฉพาะภายในห้อง ให้เริ่มติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตแผ่นแรกจากแนวประตูเป็นลำดับแรก ทำการตัดพื้นไม้ลามิเนตเข้าระหว่างบังใบประตู โดยให้ขอบของพื้นไม้ลามิเนตอยู่ตรงบังใบเพื่อให้แผ่นไม้ลามิเนตตรงประตูเป็นแผ่นเต็มไร้การต่อ พื้นไม้ลามิเนตจะมีความแข็งแรงและความสวยงาม สำหรับการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตพื้นชั้นสอง ให้เริ่มปูพื้นไม้ลามิเนตแผ่นแรกที่แนวบันไดติดกับลูกตั้งขั้นสุดท้าย โดยเว้นระยะห่างจากแนวลูกตั้งประมาณ 2-3 เซนติเมตรสำหรับติดตั้งตัวจบจมูกบันได
  • ปูพื้นไม้ลามิเนตตามทิศทางที่กำหนดไว้ เริ่มปูจากซ้ายไปขวาจนถึงผนังที่ระดับลิ่ม ระวังอย่าปูพื้นไม้ลามิเนตชิดขอบผนังเพราะจะไม่มีช่องว่างให้พื้นไม้ลามิเนตขยายตัว
  • ต่อแผ่นพื้นไม้ลามิเนต โดยการวางแผ่นไม้ลามิเนตเอียง 45 องศาและกดให้พื้นไม้ลามิเนตเข้าคลิก และตอกด้วยฆ้อยยางเบาๆเพื่อให้พื้นไม้ลามิเนตเข้าคลิกล็อคสนิท ทำการต่อแผ่นพื้นไม้ลามิเนตไปจนเต็มพื้นที่ติดตั้ง
  • ทำการติดบัวPVCข้างผนังรอบพื้นไม้ลามิเนต นำลิ่มไม้ข้างผนังที่วางไว้ออกปิดบัวPVCทับช่องว่างระหว่างพื้นไม้ลามิเนตและผนัง เก็บความเรียบร้อยด้วยแดปหรือซิลิโคนสีเดียวกับพื้นไม้ลามิเนตด้านล่างและด้านบนบัวPVC
  • ตรวจสอบความเรียบร้อยและทำความสะอาด กรณีมีงานที่ต้องทำต่อจากงานติดตั้งพื้นไม้ลามิเนต ให้ทำการProtectผิวหน้าด้วยกระดาษลูกฟูกกันรอยขีดข่วน

 

เลือกพื้นที่ตอบโจทย์การออกแบบและการใช้งาน ด้วยงบประมาณที่คุณกำหนด

Inspire by FloorD

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้